
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อตกลงและเงื่อนไขการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพรรคไทยภักดี
ข้าพเจ้ายินยอมและอนุญาตพรรคไทยภักดี (ต่อไปนี้เรียกว่า “พรรคฯ ”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทําการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
๑) การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจํากัดและเท่าที่จําเป็น
ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่พรรคฯ ได้รับมา เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขประจําตัวประชาชนอีเมล หมายเลขโทรศัพท์ วัน เดือน ปีเกิด อายุ ภูมิลําเนา ถิ่นที่อยู่ เชื้อชาติ ศาสนา เพศ เป็นต้น
รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถ บ่งบอกตัวบุคคลของข้าพเจ้าได้ อันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ และเป็น ปัจจุบัน พรรคฯ สามารถ นําไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้เท่านั้นโดยรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ และพรรคฯ มีหน้าที่ดําเนินมาตรการที่เข้มงวดในการ รักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน
๒) คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
พรรคฯสามารถจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อนําไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินงานของพรรคฯ ซึ่ง เป็นไปตามขอบเขตและวัตถุประสงค์ในการดําเนินกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนการเพิ่มมากกว่าแก้ ม.112 คุ้มครอง สถาบันพระมหากษัตริย์" โดยข้อมูลที่ได้ทําการจัดเก็บนั้น พรรคฯ ต้องคํานึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
๓) วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ข้าพเจ้ายินยอมให้พรรคฯ ทําการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
๓.๑) ดําเนินการตามวัตถุประสงค์ของพรรคฯ รวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์ของระบบงานต่าง ๆ ให้มีความ ทันสมัย หากภายหลัง พรรคฯ เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล พรรคฯ จะแจ้งให้ ข้าพเจ้าทราบและขอความยินยอมโดยตรงหรือขอความยินยอมโดยปริยายจากข้าพเจ้าผ่านทางอีเมล (E-mail) หรือ ข้อความ SMS ผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ข้าพเจ้าได้จดแจ้งไว้กับพรรคฯ หรือประกาศไว้ในเว็บไซต์ของ พรรคฯ ไม่น้อยกว่า ๗ วันก่อนวันเริ่มมีผลบังคับใช้ พร้อมนี้ พรรคฯ จะกําหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ไว้เป็นหลักฐานด้วย
๓.๒) ดําเนินการเกี่ยวกับการประเมินวิธีการดําเนินกิจกรรมทางการเมือง การรณรงค์ทางการเมืองใน วิถีทางประชาธิปไตย การสํารวจความคิดเห็น เป็นต้น
๓.๓) เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพของราษฎร ขับเคลื่อนการทํางานในทาง ประชาสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศ และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม รวมทั้งการตรวจสอบการใช้ อํานาจรัฐและการดําเนินงานขององค์กรอิสระ เป็นต้น
๓.๔) วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งเสริมการดําเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคฯ และสํารวจความพึงพอใจหรือ ความคิดเห็นของข้าพเจ้าเพื่อปรับปรุงการดําเนิน กิจกรรมทางการเมืองตลอดจนเพื่อกําหนดแนวทางการดําเนิน กิจกรรมทางการเมืองของพรรคฯ
๓.๕) เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร การโฆษณาประชาสัมพันธ์ แคมเปญ จากพรรคฯ เกี่ยวกับการดําเนินการตามข้อ ๓.๑ ข้อ ๓.๒ ข้อ ๓.๓ ข้อ ๓.๔ ของพรรคฯ
๔) ข้อจํากัดในการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
พรรคฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บรวบรวมไว้ให้กับบุคคลภายนอก และโดยที่พรรคฯ กําหนดให้ผู้รับจ้างและพนักงานจ้างเหมา (Outsource) เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้าไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัย โดยห้ามผู้รับจ้างและพนักงานจ้างเหมาดังกล่าวนําข้อมูลส่วน บุคคลของ ข้าพเจ้าไปใช้นอกเหนือจากที่กําหนดให้ดําเนินการตามสัญญาจ้าง และภายใต้วัตถุประสงค์ในการ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนี้
๕) ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานที่พรรคฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
๕.๑) ผู้รับจ้างและพนักงานจ้างเหมา (Outsource) ซึ่งพรรคฯ ได้มอบหมายให้ดําเนินการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลของข้าพเจ้า และหมายความรวมถึง เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพรรคฯ และของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
๕.๒) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนาฐานข้อมูลของพรรคฯ ในการดําเนินกิจกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ เท่าที่จําเป็นต่อการ ดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ข้าพเจ้าได้ยินยอมไว้
๕.๓) เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอํานาจตามกฎหมายที่ชัดแจ้ง และเป็นกรณีที่มีกฎหมาย กําหนดให้พรรคฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่หรือ หน่วยงานของรัฐนั้น
๖) คําชี้แจงและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
พรรคฯ ขอแถลงคําชี้แจงและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
๖.๑) พรรคฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้จดแจ้งไว้
๖.๒) หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล พรรคฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในการนี้ พรรคฯ จะทําการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน
๖.๓) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
(๑) สิทธิในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้มีความเป็น ปัจจุบัน ถูกต้องและสมบูรณ์
(๒) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้ต่อพรรคฯ เมื่อใดก็ได้ โดยเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลแจ้งความประสงค์และแสดงเจตนาทางอีเมล (E-mail) ที่พรรคฯ ได้จดแจ้งไว้
(๓) สิทธิในการขอระงับการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง อย่างชัดแจ้งเมื่อใดก็ได้ โดยเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งความประสงค์และแสดงเจตนาทางอีเมล (E-mail) ที่พรรคฯ ได้จดแจ้งไว้
(๔) สิทธิในการขอให้พรรคฯ ลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองอย่างชัดแจ้งเมื่อใดก็ได้ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งความ ประสงค์และแสดงเจตนาทางอีเมล (E-mail) ที่พรรคฯ ได้จดแจ้งไว้
(๕) สิทธิในการขอเข้าถึงและคัดถ่ายสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองโดยให้มีการ รับรองสําเนาถูกต้อง หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้ให้ความ ยินยอมโดยชัดแจ้ง
(๖) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองจากพรรคฯ ได้รวมทั้งขอให้พรรคฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่พรรคฯ ส่งหรือโอนให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(๗) สิทธิในการขอให้พรรคฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเอง ในกรณีที่ตนได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(๘) สิทธิร้องเรียนในกรณีที่พรรคฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจน เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างของพรรคฯ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และประกาศที่ตราขึ้นเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้น ขอให้ติดต่อมาทางอีเมล (E-mail) ที่พรรคฯ ได้จดแจ้งไว้
๗) การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล พรรคฯ มีมาตรการในการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
๗.๑) กําหนดสิทธิและข้อจํากัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่พรรคฯ และพนักงานจ้างเหมา (Outsource) ของพรรคฯ เพื่อแบ่งระดับความรับผิดชอบ ข้อมูลของท่านตั้งแต่ระดับผู้บันทึกข้อมูล จนถึงระดับ ผู้ดูแลระบบงาน
๗.๒) ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์หรือระบบงานสารสนเทศ ทั้งหมดอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อตรวจสอบและ ปรับปรุงเว็บไซต์หรือระบบงานสารสนเทศให้มีความทันสมัย มีความปลอดภัยจากการคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มมาตรการป้องกันช่องโหว่อย่างมีประสิทธิภาพ
๗.๓) กําหนดให้มีมาตรการที่เหมาะสมสําหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึก ความเชื่อ ศีลธรรมพื้นฐานของสังคมมนุษย์ อันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล เช่น เลขประจําตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต-บัตรเดบิต เป็นต้น
๗.๔) สร้างมาตรการบ่มเพาะจิตสํานึกความรับผิดชอบอย่างเคร่งครัดด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลให้กับเจ้าหน้าที่พรรคฯ และผู้รับจ้างของพรรคฯ ด้วยการเผยแพร่ข่าวสาร ให้ความรู้ จัด สัมมนา หรือฝึกอบรมในด้านการสร้างความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
๘. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
๘.๑ ผู้ควบคุมข้อมูลและผู้ประมวลผลพรรคไทยภักดี : ติดต่อได้ที่: [email protected]
ข้าพเจ้ายินยอมตามข้อตกลงและเงื่อนไขการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพรรคไทยภักดี